[SF] MY HAPPY ENDING { MarkBam } - [SF] MY HAPPY ENDING { MarkBam } นิยาย [SF] MY HAPPY ENDING { MarkBam } : Dek-D.com - Writer

    [SF] MY HAPPY ENDING { MarkBam }

    คุณเคยรู้สึกแปลกๆเวลาอยู่ใกล้ใครสักคนมั้ย มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่ใครอีกคนเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกแบบนั้นครับ...

    ผู้เข้าชมรวม

    8,749

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    8.74K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    115
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 พ.ย. 57 / 16:59 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    >>> MY HAPPY ENDING <<<











    สวัสดีทุกๆท่านที่มือลั่นกดเข้ามาในนี้นะคะ

    ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่านี่เป็น Short Fic เรื่องแรกที่แต่ง

    เอาจริงๆคือแต่งเรื่องยาวแล้วไม่รอดนั้นเอง เลยขอเปลี่ยนแนวมาเขียนแบบสั้นๆกระทัดรัด

    แต่ได้ใจความแบบนี้ดีกว่าโอกาสรอดดูสูงกว่าเห็นๆยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ ณ ที่นี้ด้วยแล้วกันเนอะ

    อีกเรื่องคืออยากขอความเห็นหน่อยว่าแต่งออกมาเป็นยังไงบ้าง

    ห้วนไปมั้ย สั้นไปรึเปล่าคืออยากรู้จริงๆเม้นกันมาเยอะๆน้า

    ขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่านด้วย ( โค้งคารวะ 3 ที )


    งั้นอย่ามัวแต่เสียเวลาอยู่เลยไปอ่านกันเลยดีกว่า GO GO GO..!!!





    ***************************************************



    สามารถเข้าไปพูดคุยกันได้ที่

    Tag  :  #ฟิคมบชฟ
     
        Twitter  :  @PaLmGooDGirl



     
     



     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       




               คุณเคยรู้สึกแปลกๆเวลาอยู่ใกล้ใครสักคนมั้ย มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่ใครอีกคนเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกแบบนั้นครับ... ร่ายมาซะยืดยาวผมขอแนะนำตัวเองก่อนแล้วกัน อะแฮ่มๆๆ สวัสดีครับ ผม ด.ช.กันต์พิมุกต์ ภูวกุล แบมแบม นะครับผม พวกคุณหลายๆคนอาจจะไม่รู้จักผม ไม่เป็นไรครับ ใครที่ไม่รู้จักก็จงไม่รู้จักต่อไป ส่วนคนที่รู้ว่าผมเป็นใครก็คงจะรู้แล้วว่าตอนนี้ผมได้เดบิวต์เป็นไอดอลในนาม
       GOT7 วงน้องใหม่ป้ายแดงแดนกิมจิ ก็ไม่อยากจะคุยหรอกนะ แต่ผมคิดว่าผมก็ดังอยู่พอตัว ไม่เชื่อลองถามตัวคุณเองสิว่าติ่งผมรึเปล่า ฮ่าๆๆล้อเล่นครับ ล้อเล่น มาเข้าเรื่องกันดีกว่าพวกคุณคงสงสัยว่าผมมาพร่ำพรรณาอะไรว่างนักหรือไง ทำไมไม่ไปซ้อมอย่างคนอื่นเค้า บอกตามตรงว่าว่างมากครับ เพราะผมพึ่งหมดช่วงโปรโมทไปตอนนี้เลยมีเวลามานอนตีพุงสบายใจเฉิบอยู่ที่หอแบบนี้ ส่วนที่ผมเกริ่นไปในตอนแรกก็เพราะผมมีบ้างอย่างจะเล่าให้พวกคุณฟังตั้งใจอ่านกันนะครับ...





       

      ไอแบมนั่งทำอะไรว่ะ ตั้งนานสองนานแล้วเนี่ย และกูเรียกนี่ได้ยินมั้ย







      เสียงทุ้มต่ำดังมาจากด้านหลังผม ผมรีบหันกลับไปด้วยความเร็วแสง โผล่มาแล้วครับตัวละครหลักของเรื่องนี้เดินหน้าตึงมาเชียวไปโดนใครเหยียบหางมาแหงๆ ผมคงต้องขอแนะนำคนสำคัญของเรื่องสักนิด เค้าคนนี้เป็นชายหนุ่มมาดนิ่ง หน้าตาก็ถือว่าใช้ได้อ่ะนะ บ้านรวยมากแบบเหลือกินเหลือใช้ ชื่อของเค้าก็คือ มาร์ค อี้เอิน ต้วน รู้สึกคุ้นๆหูกันบ้างมั้ยครับ เค้าคนนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง
       GOT7 และอายุมากที่สุดในวงอีกด้วย






      เรียกตอนไหนไม่เห็นได้ยินเลย และนั้นเป็นอะไรเดินหน้าเป็นตูดมาเลย







      ผมตอบกลับไป  เค้าเดินเข้ามานั่งลงข้างๆผม ไม่นั่งเปล่ายังเอาแขนมาคล้องคอผมแล้วเอาคางเกยไหล่ผมอีกตังหาก โอ๊ยยย..ไอหัวใจบ้านี่ก็จะเต้นอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ถ้ามึงจะเต้นแรงขนาดนี้มึงออกมาดวลเต้นกับกูข้างนอกเลยมั้ย นี่ก็อีกคนจะหายใจรดต้นคออีกนานมั้ย ช่วงนี้กูหวั่นไหวง่ายนะคร้าบ







      ป่าว..ไม่ได้เป็นไร แค่เบื่อๆไม่มีไรทำ ว่าแต่นั่งทำอะไร เอามาดูบ้างดิ







      พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปดูข้อความที่ผมพึ่งพิมพ์ลงไปเมื่อกี้ ผมรีบเด้งตัวไปปิดโน็ตบุ๊คด้วยความรวดเร็ว เฮ้อ..เกือบไปแล้วกู เฉียดฉิวมาก ผมหันไปทำหน้าดุใส่คนข้างๆ แต่กลับโดนมือหนาบีบจมูกเข้าอย่างจัง 







      ความลับเยอะจริงนะ ไม่ดูก็ได้ ไปหาไรกินกันจะเที่ยงแล้ว







      เค้าลุกขึ้นพร้อมกับดึงมือผมให้ลุกตามไปด้วย หรือเรียกอีกอย่างคือลากไปนั้นแหละ ส่วนผมก็ใจง่ายไงเดินตามไปเฉยเลย สักพักเราก็มาถึงร้านประจำใกล้ๆหอพักร้านนี้ต้องขอบอกเลยว่าอาหารอร่อยทุกอย่าง กินไม่เคยเบื่อว่าแล้วก็ขอสั่งเลยแล้วกัน






       

      เอาพิซซ่าชีส กับ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า อ่อ แล้วก็ขอลาซานญ่าด้วยนะครับ ฮยองเอาไร







      ผมเงยหน้าขึ้นจากเมนูเพื่อถามอีกคนที่นั่งท้าวคางมองหน้าผมนิ่ง มองอะไรของเค้า ผมเริ่มสำรวจตังเองทันทีว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า






       

      สั่งให้หน่อย ไม่รู้จะกินไร






      ประโยคขอร้องที่ดูเรียบเฉยปนเบื่อหน่ายดังมาจากอีกฟากของโต๊ะ ผมจึงหันไปสั่งอาหารเพิ่มอีกสองสามอย่าง และระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟผมก็หยิบไอแพดคู่ใจขี้นมาเล่นตามสไตล์เด็กติดโซเชียลต้องขอบอกเลยว่าผมเป็นคนโซเชียลมาก เผลอเป็นต้องหยิบมารูดดูโน้นนี่ตลอด ส่วนอีกคนตอนนี้ก็ได้แต่นั่งมองออกไปนอกร้านทำหน้าเซ็งโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมจึงต้องรีบหาเรื่องคุยเพื่อทำลายบรรยากาศอันแสนวังเวงนี้แบบเร่งด่วน






       

      ฮยอง รู้ยังจีวองชี่ออกคอลเล็คชั่นใหม่แล้วนะ ดูดิๆ สวยๆทั้งนั้นเลย







      ผมกระโดดไปนั่งข้างๆเค้าพร้อมกับยื่นไอแพดในมือให้ดู เป็นไปตามคาดเค้าหันมาสนใจไอแพดในมือผมทันที พวกเรามักจะคุยกันเรื่องแฟชั่นอยู่เสมอ เอาจริงๆแล้วพวกผมสองคนก็ใส่เสื้อผ้าเหมือนๆกัน บ้างทีก็มาจากแบรนเดียวกันคอลเล็คชั่นเดียวกันเลยก็มี บ่อยครั้งที่ผมเอาเสื้อผ้าเค้ามาใส่ ก็เราตัวเท่าๆกันนิ ใส่ด้วยกันจะแปลกอะไรล่ะจริงมั้ย







      อืม ก็สวยดี อยากได้ป่ะ จะได้สั่งพร้อมกันทีเดียวเลย







      เค้าหันมามองผมเป็นเชิงถาม ผมก็ได้แต่อ่ำๆอึ่งๆไม่กล้าตอบ ก็แบรนนี่ราคาเหยียบแสนแทบทุกตัว ใครมันจะไปซื้อได้บ่อยๆ เดือนที่แล้วผมก็พึ่งถอยเสื้อมาสองตัว ไหนจะกางเกงอีก หมดไปหลายตังค์กินมาม่าอยู่เป็นเดือนๆ จะให้ซื้ออีกก็คงจะไม่ไหว






       

      ฮยองสั่งไปก่อนเลย ผมไม่ค่อยอยากได้เท่าไหร่






      เหรอ..หน้าตาไม่ค่อยอยากได้เลยเนอะ







      เวรกรรม นี่หน้ากูออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย โอ๊ยย แบมแบม ใจล่มๆ เว้ยใจล่มๆ อย่าไปอยากได้เลยมันก็งั้นๆแหละไม่เห็นจะสวยเท่าไหร่ ก็แค่คอลเล็คชั่นใหม่ ลายแบบใหม่แค่นั้นเอง... ฮือๆๆ อยากได้อ่ะ








      เดี๋ยวกูออกให้ก่อนก็ได้ จะเอาตัวไหนล่ะ







      สวรรค์โปรด ผมรีบหันไปทำหน้าอ้อนใส่คนข้างๆทันที เค้าหันมามองก่อนจะขยี้หัวผมจนยุ่งเหยิงและหลุดหัวเราะออกมา เอาจริงๆแล้วถ้าเค้าพูดแบบนี้แสดงว่าผมจะได้ของพวกนั้นมาแบบฟรีๆ เพราะผมเคยเอาเงินไปคืนแต่เค้าก็ไม่เคยรับเงินพวกนั้นเลยสักครั้ง จังหวะเดียวกับที่อาหารมาเสิร์ฟพวกเราจึงนั่งกินไปด้วยเลือกเสื้อผ้าไปด้วยอย่างเมามัน นี่แหละช่วงเวลาสุขสันต์ของมาร์คแบมล่ะ









      เช็คบิลด้วยครับ..








      ผมหันไปบอกพนักงานหลังจากจัดการอาหารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่ามื้อนี้ผมมีเจ้ามือ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ ฮ่าๆๆ พวกผมเดินออกมาจากร้านอาหารไม่นานก็เดินมาถึงหอพัก ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องผมก็รีบตรงปรี่เข้าไปในครัวและเปิดตู้เย็นหยิบไอติมออกมากินเป็นของหวาน








      ยังไม่อิ่มอีกเหรอ กระเพาะครากป่ะเนี่ย ตัวเล็กนิดเดียวกินเยอะชะมัด








      เค้าหันมาแขวะผม ผมได้แต่ยักไหล่กวนๆส่งกลับไป ก่อนจะเดินไปยังห้องนั่งเล่นที่เค้านั่งอยู่ก่อนแล้ว ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาและหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ดู ตอนนี้ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งผมจึงหันไปดูว่าอีกคนกำลังทำอะไรอยู่ และก็ถึงบางอ้อ เพราะตอนนี้ มาร์ค ต้วน ไปเฝ้าพระอินทร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เห็นดังนั้นผมก็กดปิดโทรทัศน์แล้วเดินเข้าไปหยิบผ้าห่มในห้องออกมาห่มให้เค้า ใครจะรู้บ้างเนี่ยมาร์ค ต้วน หนุ่มมาดขรึม เวลานอนจะดูมุ้งมิ้งขนาดนี้ ก็ตอนนี้เค้ากำลังนอนกอดหมอนกุ๊กไก่และเอาหน้าซุกหมอนราวกับเด็กน้อยขี้อ้อน ขนตายาวเรียงกันเป็นแพหนา คิ้วเข้มได้รูป ผมไล่นิ้วไปตามเรียวคิ้วหนา เค้าเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ กับที่ท่าทางง้อแงแบบนั้น น่ารักจัง..








      นอนหลับฝันดีนะ My Mark..”








      ผมก้มตัวลงจูบเบาๆที่ริมฝีปากได้รูปนั้น ราวกลับสวรรค์กลั่นแกล้ง คนที่ควรหลับไปแล้วกลับลืมตาขึ้นมาซะอย่างงั้น ขุ่นพระ..ผมรีบผละตัวออกมาแทบจะทันที ชิบหายและกู ทำไงล่ะทีนี้ ซวยขั้นสุดยอดเลย ผมได้แต่นั่งหน้าเหว่อ อ้าปากค้างอยู่อย่างงั้น ส่วนผู้ถูกกระทำตอนนี้ลุกขึ้นนั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานงอกแล้ว
      คร้าบบบ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วย...








      ฮยอง เออ..คือ เอาไงดีว่ะ..








      ผมได้แต่พูดตะกุกตะกักจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง ในขณะที่อีกฝ่ายนั่งจ้องมาที่ผมเขม็ง ผมว่าเค้ายังไม่ได้กระพริบตาเลยสักครั้งสายตาที่ส่งมาดูอ่านยาก มันดูนิ่งเรียบซะจนหน้าใจหาย  แม่จ๋าแบมกลัว ฮือๆๆ อย่าทำหน้าโหดดิว่ะ กูจะร้องไห้แล้วเนี่ย กลั้นไม่อยู่แล้วโว้ยยย ร้องมันเลยและกัน ผมปล่อยโฮออกมาจนทำให้อีกคนร้องเสียงหลงทันทีที่เห็น







      เห้ยยย..มึงจะร้องไห้ทำไม








      ผมนั่งสะอึกสะอืนอย่างกับมีใครตาย เค้ารีบเข้ามาหาผมด้วยความตกใจ เอาจริงๆนะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมร้องไห้ทำไม อยู่ๆมันก็ไหลออกมาเอง ถามว่าตอนนี้ผมอายมั้ย บอกเลยว่ามากถึงมากที่สุด ขายขี้หน้าจริงๆทำเองแล้วยังมีหน้ามานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นเด็กๆ





       


      ก็ๆๆ..ฮือๆๆๆ ก็แบบ


       





      ผมยังคงพูดไม่ได้ศัพท์ จนอีกคนทนไม่ไหวเลยดึงตัวผมเข้าไปกอดหน้าผมฝังเข้ากับแผงอกแกร่งอย่างช่วยไม่ได้ เค้าลูบหัวผมไปมาอย่างเป็นเชิงปลอบ








      ไม่เอาเงียบซะ จะร้องทำไมดูดิ หน้าตาดูไม่ได้เลย ขี้เหล่ชะมัด








      เค้าดันตัวผมออกมาก่อนจะใช่นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกจากข้างแก้มของผมอย่างเบามือ อ่อนโยนไปแล้วนะมาร์ค ต้วน มันกลับมาอีกแล้วสินะไออาการประหลาดๆนั้น แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเป็นหนักกว่าเคย ก็หัวใจของผมมันเต้นแรงกว่าครั้งไหนๆ ผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันจะหลุดออกมาเต้นอยู่ข้างนอกเสียให้ได้ ผมได้แต่ก้มหน้างุ้นเพราะรู้ตัวเลยว่าตอนนี้หน้าผมคงแดงมากแน่ๆ









      ฮยอง ผมขอโทษอย่าโกธรเลยนะ






      เรื่องอะไร..??







      ก็ เออ เรื่องที่ผมแอบจูบฮยองตอนหลับ






      แล้วจูบทำไม ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นล่ะน่าดู







      ผมเงยหน้าขึ้นจ้องตาอีกฝ่ายนิ่ง เค้าก็จ้องตอบกลับมาเช่นกัน เอาว่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เป็นไงเป็นกัน ผมสูดหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะเอ่ยถอยคำที่ไม่คิดว่าจะได้พูดออกไป






       

      ผมคิดว่าผมชอบฮยองว่ะ








      เงียบ ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาแม้แต่นิดเดียว จะมีก็เพียงริมฝีปากอันแสนเร่าร้อนของอีกฝ่ายที่ประกบลงมาอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล เค้าค่อยๆบรรจงจูบอย่างเนิ่นนานโดยไม่มีการลุกล้ำใดๆ จนผมคิดว่ามันนานเกินไปแล้วจึงทุบไหล่อีกฝ่ายเป็นเชิงประท้วง ส่วนหัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้วก็ยิ่งเต้นแรงเข้าไปใหญ่
      ทำให้ผมต้องยกมือขึ้นมากุมหน้าอกเอาไว้







       

      พอๆๆๆ หายใจไม่ออกแล้ว








      ผมผละออกจากอีกฝ่ายและกลับไปก้มหน้างุ้นเหมือนเดิม ผมลูกมีพ่อมีแม่นะจะมาทำลุ่มล่ามแบบนี้ได้ไง เอาจริงๆคือ อายจนไม่กล้ามองหน้า อายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย









      มาทำเป็นบ่น ชอบก็บอกเหอะ






      บ้าดิ ใครชอบอย่ามามั่ว แล้วมาจูบทำไมเนี่ย







      แก้แค้น ที่โดนขโมยจูบตอนหลับ








      เค้าพูดไปขำไปอย่างอารมณ์ดี ดูถ้าจะถูกอกถูกใจอยู่ไม่น้อย ผมเลยได้แต่นั่งทำแก้มพองลมโคฟเป็นปลาปักเป้าอยู่อย่างงั้น จนอีกฝ่ายเห็นเลยแซวผมอย่างนึกสนุก








      ดูทำหน้าเข้า คิดว่าน่ารักนะนั้น อ้าว..จะไปไหนล่ะมานี่ก่อน








      ผมเตรียมจะลุกขึ้นเพื่อเดินออกไปจากตรงนั้น แต่ก็โดนอีกคนรั้งแขนเอาไว้แล้วดึงเข้าหาตัวจนผมเซไปนั่งลงบนตักเค้าอย่างง่ายดาย เค้าโอบรอบเอวผมเอาไว้แน่น สงสัยคงกลัวผมลุกหนีไปอีก







       

      ปล่อยเลย ไม่เล่นแล้ว เรื่องซีเรียส ทำเป็นเล่นอยู่ได้








      โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว หันมาคุยกันดีๆดิ








      เค้าจับให้ผมหันหน้าไปหาเค้า ผมจึงหันกลับไปมองก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
      และกลั้นใจถามสิ่งที่ค้างคาใจออกไป









      ฮยองถามจริงนะ มีทางที่ฮยองจะชอบผมบ้างป่ะ








      ไม่มี..








      อึ้งไปเลยคร้าบ เหมือนมีใครวิ่งเอาไม้หน้าสามมาตีแซกกลางหน้า หน้างี้ชาไปหมด กูทำอะไรลงไปว่ะเนี่ย ใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเป็นที่เรียบร้อย ดวงตาที่พึ่งแห้งไปกลับร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้มันทั้งเจ็บทั้งจุกจนพูดไม่ออก









      ไม่ชอบ เพราะถ้าจะให้กูบอกว่าชอบมึงก็คงไม่ถูกเท่าไหร่ ต้องบอกว่ารักสิถึงจะถูก รักนะแบมแบม








      เชี่ยเอ้ยยย น้ำตาไหลอีกแล้ว ทำไมต้องมาแกล้งอะไรแบบนี้ด้วยคนยิ่งเครียดๆอยู่ ผมนั่งนิ่งก่อนน้ำตาที่กลั้นไว้จะเริ่มไหลออกมาช้าๆผมโถมตัวเข้ากอดอีกฝ่ายแน่น เค้าลูบหัวผมไปมาก่อนจะประทับจูบลงบนเรือนผมสีฟ้าสว่างของผมแล้วไล่ต่ำลงมาที่หน้าผากมนก่อนจะจูบที่ดวงตาทั้งสองข้างของผมเพื่อซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุด ผมได้แต่หลับตารับสัมผัสอุ่นที่อีกฝ่ายมอบให้ ก่อนจะลืมตาขึ้นเพื่อสบกับดวงตาแสบอบอุ่นที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ








      ร้องไห้อีกแล้ว ขี้แยจังนะ






      ก็เพราะใครล่ะ นึกว่าจะอกหักซะแล้ว






      ฮ่าๆๆ ใครจะกล้าหักอกเด็กขี้แยได้ลงคอ







      ชิ..มาทำเป็นพูดดี ฮยองแอบหลงรักผมอยู่อ่ะดิ ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ..







      ไม่บอก... บอกก็กลัวดิ มันเป็นความลับ






      โหยย ขี้โกงว่ะ






      ขี้โกงแล้วรักป่ะล่ะ







      เค้ายักคิ้วพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ย์มาให้ผม ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปจับหน้าเค้าเอาไว้ ไม่ให้หันหนีไปไหนและจ้องเข้าไปในดวงตาคู่นั้นพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังยิ้มไม่หุบ







       

      รักดิ รักมากด้วย ตั้งแต่นี้ไปฮยองเป็นของผมแล้วนะเข้าใจมั้ย








      เค้าพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มกว้างกลับมาแทนคำตอบ ผมจับหน้าเค้าส่ายไปมา เค้าจึงยื่นมือมาจับหน้าผมให้เข้าไปใกล้และจูบผมอย่างแผ่วเบาอีกครั้งก่อนที่เค้าจึงผละออกไปและกระซิบที่ข้างหูผมด้วยเสียงเบาราวกระซิบแต่มันกับดังก้องในใจผู้ฟังอย่างผม








      "ฮยองก็รักแบมนะ รู้แล้วก็อย่าไปบอกใครล่ะเข้าใจมั้ย เด็กดื้อ.."








      เค้าพูดจบก็บีบจมูกรั้นๆของผมบิดไปมาก่อนจะกอดผมไว้แน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน ผมได้แต่พยักหน้าอยู่ในอ้อมกอดนั้นอย่างอายๆ หลังจากนั้นเราสองคนก็เริ่มคบกันแบบไม่ทันตั้งตัว ทุกอย่างดูเหมือนเกิดขึ้นเร็วมาก และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักในรูปแบบของผม






      เรื่องราวที่พวกคุณได้อ่านมาทั้งหมดเป็นเรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นกับผม ผมว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันดูเหมือนตอนจบในเทพนิยายหลายๆเรื่องที่พวกคุณเคยอ่านมาแค่เปลี่ยนตัวละครเท่านั้นเอง ผมอยากบอกว่าความรักมีหลายรูปแบบอยู่ที่ว่าพวกคุณจะเลือกแบบไหน ยังไงซะความรักก็เป็นสิ่งที่สวยงามเพราะฉะนั้นผมขอให้ทุกคนเจอกันความรักที่สวยงามแบบผมก็แล้วกัน  คงได้เวลาที่ผมต้องเอ่ยคำลาแล้ว ถ้ามีโอกาสเราคงเจอกันใหม่นะครับผม รักนะคร้าบบ...

       


       

      **************************************

       




      >>> แถมอีกสักนิด <<<






      " มาร์คฮยองๆมาบอกลาแฟนๆหน่อยเร็ว "  แบมแบมหันไปกวักมือเรียกร่างสูงให้เดินมาหา 




      "ลาใคร ไหนๆๆๆ อ๋อ นี้เหรอ สวัสดีครับ ผมมาร์คครับ ขอบคุณที่รักพวกเราสองคนนะครับ
      พวกเราก็รักพวกคุณเหมือนกัน "    จุ๊บบบ.. 





      "เฮ้ยยย..มาหอมแก้มแบมทำไม"   




      "หอมโชว์แฟนๆไง"   จุ๊บบบบ..





      "มันจะมากไปแล้วนะมาร์คฮยอง"




      "ก็เมื่อกี้หอมข้างขวาไปแล้ว กลัวข้างซ้ายมันจะน้อยใจ"  





      "เอาเข้าไปเรื่องแถนี่ถนัดนักนะ อะๆพอเลยไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาเลย "





      "โหยยย..ก็ได้ๆ ติดไว้ก่อนและกัน งั้นเรามากล่าวคำลาอย่างเป็นทางการกันหน่อยดีกว่า"




      "พวกผมต้องขอขอบคุณทุกๆคนมากนะครับ ที่คอยเป็นกำลังใจให้พวกผม ผมหวังว่าพวกคุณจะรักและสนับสนุนพวกผมและวง GOT7 ตลอดไป รักพวกคุณนะครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ..." 

       



       >>> การไหว้ลาของ มาร์คแบม <<<
       





      *********************************


       

       

      จบลงไปแล้วกับเรื่องสั้นตลาดสด ( ไม่ใช่และ =.,= )

      เอาใหม่ๆๆๆ จบลงไปแล้วกับเรื่องราวความรักแสนหวานเลี่ยนของมาร์คแบม เรียกได้ว่าจบแบบงงๆ

      เพราะตอนเขียนกำลังอึนๆเบลอๆอยู่เชียว เขียนจบได้ก็เป็นปลื้มมากแล้ว

      หวังว่าคงพอไปวัดไปวาได้ล่ะนะ และอีกเรื่องที่ต้องเน้นย้ำกันอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมเม้นกันด้วยน้า

      อยากรู้ความคิดเห็นจากทุกคนจริงๆ งั้นเอาไว้เท่านี่แล้วกันเนอะไปก่อนล่ะ ถ้ามีโอกาสคงได้พบกันใหม่

       บ๊ายยยย บายยยย... >3< 

                                 

       

       

       

                                 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×